การเลือกซื้อเก้าอี้บาร์เบี้องต้น

เลือกแบบที่มีเบาะและพนักพิง

อีกปัจจัยที่สำคัญมากเช่นกัน คือ ต้องคำนึงถึงความสะดวกสบายในการนั่ง ขอแนะนำให้เลือกเก้าอี้ที่มีพนักพิงและมีเบาะรองที่นั่ง เนื่องจากพนักพิงจะช่วยลดความเสี่ยงจากการเมื่อยล้าและปวดหลังเมื่อต้องนั่งเป็นเวลานาน ๆ และยังช่วยให้ผ่อนคลายขณะนั่งมากขึ้น นอกจากนี้ เพื่อเสริมความสบายในการนั่งมากขึ้น ควรเลือกที่นั่งแบบที่เป็นเบาะบุฟองน้ำด้วย เพราะหากพื้นผิวของเก้าอี้แข็ง จะเกิดอาการกดทับที่สะโพก นั่งไม่สบาย และทำให้เราไม่สามารถนั่งได้เป็นเวลานาน

เลือกดีไซน์ที่เหมาะกับห้อง

ท้ายที่สุด นอกจากเรื่องประโยชน์ใช้สอยแล้ว เพื่อให้เก้าอี้-บาร์ กลายเป็นของตกแต่งภายในบ้านเรา จึงควรเลือกดีไซน์ที่เข้ากับบรรยากาศ และเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ในห้องด้วย หากห้องที่จะนำไปวางมีลักษณะแบบโมเดิร์น แนะนำให้เลือกวัสดุที่ทำจากเหล็กหรืออะลูมิเนียม ที่เมื่อดูแล้วเรียบง่าย แต่มีความทันสมัย ถ้าห้องเป็นสไตล์วินเทจ หรือคลาสสิก ให้ลองเลือกวัสดุที่เป็นไม้ รับรองว่าจะเข้ากันได้ดีอย่างแน่นอน แถมยังช่วยให้ห้องของคุณดูอบอุ่นและเป็นธรรมชาติมากขึ้นอีกด้วย

ส่วนการเลือกสีนั้นอาจจะเลือกโดยหาสีที่เข้ากับเฟอร์นิเจอร์รอบ ๆ ห้อง เช่น ผ้าม่าน, ผนัง หรือโต๊ะ สำหรับใครที่อยากให้มุมเก้าอี้บาร์ดูโดดเด่น ให้ลองเลือกสีที่ฉูดฉาดตัดกับเฟอร์นิเจอร์อื่น ๆ ขึ้นมาเลย ก็ถือเป็นไอเดียที่ไม่เลวเลยค่ะ

นอกจากเก้าอี้ทรงมาตรฐาน ที่เราเห็นกันอยู่ทั่วไปตามท้องตลาด ยังมีเก้าอี้อีกหนึ่งประเภทที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก ในยุคนี้คือ เก้าอี้บาร์ หรือ เก้าอี้ทรงสูง ที่เรามักจะเห็นและถูกนำมาใช้ตกแต่ง ตามร้านอาหารกันอย่างมากมาย ทำให้ใครหลายคนอยากจะมีเก้าอี้บาร์ แบบนี้ไว้ติดบ้านสักตัว แต่ก็กลัวว่าซื้อมาแล้วไม่รู้จะไปตั้งตรงไหนดี ควรเลือกแบบไหน สีไหนดี วันนี้เราจะมาบอกเทคนิคง่ายๆในการเลือกซื้อ เก้าอี้บาร์ ให้กับเพื่อนๆกัน

• ตำแหน่ง

เป็นสิ่งแรกที่ต้องนึกถึงเมื่อคิดจะนำมาตกแต่งในบ้าน ต้องเลือกดีไซน์และรูปแบบให้เหมาะสมกับห้องที่จะนำไปใช้ ยกตัวอย่าง เก้าอี้บาร์ที่ทำจากไม้ จะเหมาะกับบ้านสไตล์วินเทจ หรือหากห้องครัวของคุณ เป็นสไตล์ Modern และมีวัสดุที่ทำจากเหล็กขัด เป็นส่วนประกอบหลัก แนะนำให้ใช้เก้าอี้บาร์ ที่ทำจากเหล็กก็จะยิ่งเข้าชุดกัน

• การเลือกสี

มีเทคนิคง่ายๆในการเลือกเก้าอี้บาร์ปรับระดับไม่ได้ สีที่นิยมทำกันคือ อย่างแรกจับคู่สีให้เข้ากับท็อปครัว เป็นวิธีที่นิยมมากที่สุด อย่างที่สองเลือกสีเก้าอี้ให้เข้ากับเฟอร์นิเจอร์ ภายในห้องนั้น อย่างสุดท้ายคือเลือกสีที่ตรงข้ามตัดกับห้องไปเลยก็เป็นไอเดียที่ไม่เลว

• ความสูงของเก้าอี้บาร์

เป็นอีกหนึ่งปัจจัย ในการเลือกซื้อเก้าอี้บาร์ที่ต้องคำนึงถึง ความสูงของเก้าอี้บาร์ที่ดีควรมีพื้นที่เพียงพอสำหรับขาของคุณ เพื่อให้นั่งได้อย่างสะดวกสบาย โดยขาไม่ติดกับท็อปครัวหรือบาร์ ซึ่งเก้าอี้บาร์หลายรุ่นจะมีกลไกแก็สช่วยให้สามารถปรับความสูงได้ตามต้องการ

ส่วนใหญ่บาร์ในห้องครัวจะมีความสูงอยู่ที่ 90 cm. จากพื้น เก้าอี้บาร์ที่ดีควรมีความสูงอยู่ที่ 65-70 cm. แต่หากเป็นบาร์ในร้านอาหารจะมีความสูงอยู่ที่ 110 cm. ดังนั้นเก้าอี้บาร์ควรมีความสูงอยู่ที่ 75-80 cm.

• ความกว้างของเก้าอี้บาร์

เป็นอีกสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กับเรื่องของความสูงของเก้าอี้บาร์ หากจะให้ดีต้องทราบความยาวของบาร์และจำนวนที่นั่งที่ต้องการก่อน ซึ่งระยะห่างระหว่างเก้าอี้บาร์แต่ละตัวควรอยู่ที่ประมาณ 15 cm. เป็นระยะที่ไว้สำหรับหมุนและสามารถเข้าออกได้อย่างสะดวก

• ฐานของเก้าอี้

ก่อนเลือกซื้อเก้าอี้บาร์ต้องเช็คให้ดี ว่าฐานของเก้าอี้ มีขนาดเหมาะสมรับกับด้านบนหรือไม่ เพราะหากเบาะที่นั่งมีขนาดใหญ่ ฐานจะต้องมีขนาดกว้างเพิ่มขึ้นตามไปด้วย เพื่อให้เกิดความสมดุล

อย่างไรก็ตาม โต๊ะบาร์และเก้าอี้-บาร์ แต่ละตัวก็จะมีขนาด และความสูงที่แตกต่างกัน หากจะหาที่มีความสูงแบบพอดีเป๊ะ ๆ คงเป็นเรื่องที่ยุ่งยากไปสักหน่อย เราจึงขอแนะนำให้คุณเลือกแบบ ที่ปรับระดับความสูง-ต่ำได้ ซึ่งจะช่วยให้คุณสะดวกในการนำเก้าอี้ ไปใช้กับโต๊ะที่มีขนาดต่างกันได้อย่างเหมาะสม